หนึ่งในข้อดีของการซื้อขายในตลาดการเงินคือ สามารถเพิ่มโอกาสการทำกำไรได้หลายเท่าตัวแม้จะมีเงินทุนไม่มากเพราะมีเครื่องมือที่เรียกว่า Leverage(เลเวอเรจ) ที่มาช่วย “งัด” ศักยภาพการลงทุนของคุณ แต่การใช้ Leverage ต้องระมัดระวัง เพราะหากไม่วางแผนให้ดี อาจทำให้พอร์ตลงทุนของคุณพังได้ง่าย ๆ ในบทความนี้ เราจะพาคุณทำความเข้าใจกับ Leverage ตั้งแต่ประวัติความเป็นมา ประโยชน์ และวิธีการใช้งานอย่างปลอดภัย
ความเป็นมาของ Leverage
แนวคิดของ Leverage มีมาตั้งแต่สมัยโบราณเมื่อ 3,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช
ในยุคเมโสโปเตเมียและอียิปต์โบราณ มีการซื้อขายสินค้าเกษตรกรรม ชาวไร่ชาวสวนที่ไม่มีเมล็ดพันธุ์สำหรับการเพาะปลูกในฤดูกาลถัดไป พวกเขาจะทำการยืมเมล็ดพันธุ์จากเจ้าของที่ดินหรือนายทุน โดยตกลงว่าจะคืนผลผลิตในปริมาณที่มากกว่าที่ได้ยืมมา เช่น ทำการยืมเมล็ดพันธ์ 1 กระสอบ แต่ตกลงว่าจะคืน 2 กระสอบหลังเก็บเกี่ยวสำเร็จ แนวคิดดังกล่าวคือการ “Leverage” ในรูปแบบของการยืมทรัพยากรเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ใหญ่ขึ้น และได้นำไปใช้ในการกู้ยืมเพื่อธุรกิจในยุคปัจจุบันและมีการนำมาใช้ในตลาดการเงิน เช่น ทำให้นักลงทุนรายย่อยสามารถซื้อขายสินทรัพย์มูลค่าสูงได้
ข้อดีของ Leverage
หากว่าคุณต้องการที่จะเทรดเพื่อทำกำไรเยอะๆ พลังของ Leverage ช่วยให้คุณมีสิทธิ์นั้นได้ทันทีแม้เงินทุนจริงๆ ของคุณไม่ได้มีเยอะมาก เพราะโบรกเกอร์จะกำหนด Margin หรือเงินประกันที่คุณต้องวางไว้ในบัญชี เช่น หากใช้ Leverage 1:100 คุณสามารถเปิดสถานะมูลค่า $10,000 ด้วยเงินเพียง $100 ส่วนเงินที่เหลือเป็นการ “ยืม” จากโบรกเกอร์ ทั้งนี้ หากมูลค่าพอร์ตลดลงต่ำกว่า Margin ที่กำหนด โบรกเกอร์อาจทำการปิดออเดอร์หรือแจ้งเตือนให้เติมเงินเพิ่ม (Margin Call)
ด้วยหลักการนี้เอง จึงเป็นโอกาสของนักเทรดในการเปิดสถานะซื้อขายได้มากขึ้น
ทำกำไรได้มากขึ้น เข้าถึงสินทรัพย์อื่นๆ ได้มากขึ้น และยังเป็นตัวช่วยให้ไปลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายเพื่อกระจายความเสี่ยงได้อีกด้วย
วิธีการใช้ Leverage ในตลาด Forex
การใช้ Leverage ในตลาด Forex เริ่มจากการเลือกขนาด Lot ซึ่งเป็นหน่วยที่ใช้กำหนดปริมาณการซื้อขายในตลาด โดย 1 Lot เท่ากับ 100,000 หน่วยของสกุลเงินที่ซื้อขาย เช่น XAU/USD(ทองคำเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ) และหากเลือกใช้ Leverage 1:100 เราจะใช้เงินทุนเพียง 1% ของมูลค่าจริงในการเปิดสถานะ เช่น คุณจะใช้เงินเพียง $100 เท่านั้นเพื่อทำการซื้อทองคำมูลค่า 10,000$
วิธีการใช้ Leverage ให้ปลอดภัย
อย่างไรก็ตามแม้ Leverage จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้มีกำไรจากการซื้อขายได้มากขึ้น แต่เป็นการเพิ่มความเสี่ยงที่สูงขึ้นตามเช่นกัน จากเดิมที่การขาดทุนในอัตราเงินทุนปกติ อาจจะไม่สูงมาก แต่เมื่อใช้ Leverage ที่สูง อัตราในการขาดทุนก็จะสูงกว่า ก็จะเกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่า “พอร์ตแตก” ได้นั่นเอง
แล้วเราจะจัดการความเสี่ยงยังไงเพื่อไม่ให้พอร์ตแตก ?
1.เข้าใจตลาดและพฤติกรรมราคาของสินทรัพย์ จะช่วยประกอบการตัดสินใจการเทรดได้ดีขึ้น ทำให้มีความแม่นยำที่จะเสี่ยงมากขึ้น
2.ตั้ง Stop-Loss เพื่อความปลอดภัยทุกครั้งเพื่อลดปริมาณการขาดทุนเมื่อราคาสินทรัพย์เคลื่อนที่สวนทาง
3.มีการประเมินความเสี่ยง(Risk Management) อย่างชัดเจน 1:10 หรือ 1:20 ตามความสามารถของแต่ละคน
สรุป
สิ่งที่ Leverage ให้ อาจเป็นได้ทั้งข้อดีและข้อเสียในการเทรด หากมีการประเมินความเสี่ยง และศึกษาตลาดมาอย่างดี ก็ถือเป็นเครื่องมือที่ช่วยทวีคูณกำไรได้ แต่หากใช้อย่างเกินขอบเขต ไม่มีการวางแผนรับมือกับความเสี่ยงก็เป็นข้อเสียได้เช่นกัน ดังนั้น นักเทรดจึงควรประเมินศักยภาพของตัวเอง และเลือกใช้อัตรา Leverage ให้เหมาะสม ซึ่ง Vantage เป็นโบรกเกอร์ที่มีอัตรา Leverage ที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งผู้เริ่มต้นไปจนถึงระดับมืออาชีพ มีอัตราเริ่มต้นตั้งแต่ 1:100, 1:200, 1:300, 1:400, 1:500, 1:1000 และ 1:2000
คุณสามารถเลือกเปิดบัญชีจริงเพื่อซื้อขายตามศักยภาพของคุณได้เลยหรือหากต้องการเปิดบัญชีทดลองก่อนก็ได้เช่นกัน