เราทุกคนรู้ว่าการซื้อทองคำเป็นการลงทุนที่ดี เพราะทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าคงที่และสามารถป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อได้หรือที่ถูกนิยามว่าเป็น “Safe Haven” ในปัจจุบันการลงทุนในทองคำไม่ได้จำกัดอยู่แค่การซื้อทองแท่งหรือทองรูปพรรณอีกต่อไป แต่ยังเลือกซื้อทองคำรูปแบบออนไลน์ได้ ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบายได้เป็นอย่างดี
บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงข้อดีและข้อเสียของการซื้อทองคำในสองรูปแบบหลัก ได้แก่ การซื้อทองแท่งและการซื้อทองออนไลน์ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
บทความนี้จะขออนุญาตเรียกทองคำแท่งและทองรูปพรรณรวมกันเป็น “ทองคำแบบจับต้องได้หรือ Physical Gold” เพื่อให้ง่ายต่อการอ่าน
1.ต้นทุนและค่าธรรมเนียมในการซื้อทองคำ
การซื้อทองคำ ไม่ว่าจะเป็นทองแท่งหรือการซื้อทองคำออนไลน์ ต่างก็มีต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายและการจัดการสินทรัพย์ที่แตกต่างกัน นักลงทุนควรพิจารณาค่าธรรมเนียมเหล่านี้ก่อนตัดสินใจลงทุน
การซื้อทองคำ Physical Gold
การซื้อทองแท่งและทองรูปพรรณเป็นการลงทุนในทองคำจริงที่จับต้องได้ แต่มีต้นทุนเพิ่มเติมที่ต้องคำนึงถึง เช่น
- ค่ากำเหน็จ – ค่าดำเนินการที่ร้านทองคิดเพิ่มจากราคาทองคำ ซึ่งรวมถึงต้นทุนการผลิตและออกแบบ (โดยเฉพาะในกรณีของทองรูปพรรณ)
- ค่าฝากเก็บทองคำ – หากนักลงทุนต้องการเก็บทองคำในที่ปลอดภัย เช่น ธนาคารหรือตู้นิรภัยของบริษัทเอกชน อาจมีค่าฝากเก็บเพิ่มเติม
- ค่าประกันภัย – นักลงทุนอาจต้องเสียค่าประกันภัยหากต้องการคุ้มครองทองคำจากความเสียหายหรือการสูญหายย
การซื้อทองคำออนไลน์
ในขณะเดียวกัน การซื้อขายทองคำออนไลน์เป็นอีกทางเลือกที่สะดวกและไม่ต้องกังวลเรื่องการเก็บรักษา แต่ก็มีค่าธรรมเนียมในรูปแบบที่แตกต่างกัน เช่น
- ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม – แพลตฟอร์มออนไลน์หรือโบรกเกอร์บางแห่งอาจมีค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย
- ค่าสเปรด (Spread) – เป็นส่วนต่างระหว่างราคาซื้อ (Bid) และราคาขาย (Ask) ซึ่งนักลงทุนต้องจ่ายให้กับโบรกเกอร์
- ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ – บางแพลตฟอร์มอาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม เช่น ค่าถอนเงินหรือค่ารักษาบัญชี
2.ความสะดวกสบายในการซื้อขาย
รูปแบบการซื้อทองคำทั้งสองแบบมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนในแง่ของ ความสะดวกสบายและกระบวนการซื้อขาย นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังนี้
การซื้อทองคำ Physical Gold
เราสามารถเดินเข้าไปซื้อที่ร้านทองได้โดยตรง โดยไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาระบบล่มหรือความเสี่ยงจากอินเตอร์เน็ต นอกจากนี้ ยังได้ครอบครองทองคำจริงทันทีหลังจากซื้อ
แต่ข้อจำกัดก็คือ หากเป็นช่วงเวลาที่มีคนซื้อขายทองจำนวนมาก อาจต้องรอคิวนาน รวมถึงการเดินทางไปยังร้านทองหรือธนาคารก็เป็นภาระเพิ่มเติม อีกทั้งร้านทองมีเวลาเปิด-ปิดที่แน่นอน ทำให้ไม่สามารถซื้อขายได้ตลอดเวลา และหากต้องการขายคืน อาจต้องใช้เวลาในการตรวจสอบคุณภาพทองก่อนที่ร้านจะรับซื้อ ซึ่งอาจทำให้การซื้อขายล่าช้ากว่าการซื้อทองออนไลน์
การซื้อทองออนไลน์
การซื้อทองคำออนไลน์ มีข้อดีตรงที่สามารถซื้อขายได้สะดวกทุกที่ทุกเวลา ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์โดยไม่ต้องเดินทางไปที่ร้านทอง อีกทั้งยังสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วภายในไม่กี่วินาที ทำให้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเก็งกำไรจากราคาทองที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา นอกจากนี้ ไม่ต้องกังวลเรื่องการจัดเก็บทองคำจริง ลดความเสี่ยงจากการสูญหายหรือถูกขโมย
อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดก็คือการซื้อขายขึ้นอยู่กับระบบออนไลน์ ซึ่งอาจเกิดปัญหาทางเทคนิค เช่น ระบบล่มหรืออินเทอร์เน็ตมีปัญหาได้ อีกทั้งความน่าเชื่อของแพลตฟอร์มก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากโบรกเกอร์ และอาจมีค่าธรรมเนียมการซื้อขายในรูปแบบของค่าสเปรดซึ่งเป็นส่วนต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขาย
3.โอกาสในการทำกำไร
การซื้อขายทองคำให้ได้กำไรเป็นเป้าหมายของนักลงทุนทุกคน แต่ละรูปแบบก็มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์การลงทุน ระยะเวลาการถือครอง และความสามารถในการวิเคราะห์แนวโน้มของราคาทองคำ
การทำกำไรจาก Physical Gold
เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการถือระยะยาว เนื่องจากสามารถเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อได้ดี แต่เมื่อจะขายอาจจะต้องมีกระบวนหลายขั้นตอนทั้งขั้นตอนตรวจสอบคุณภาพ และกำไรที่ได้มาต้องครอบคลุมกับต้นทุนค่ากำเหน็จ
การทำกำไรจากการซื้อทองคำออนไลน์
ข้อดีที่เห็นได้ชัดจากการซื้อทองคำออนไลน์จะเป็นเรื่องของการที่ไม่ต้องถือครองทองคำจริงๆ สิ่งนี้ทำให้นักลงทุนสามารถเลือกกลยุทธ์ได้หลายรูปแบบ และยังสามารถใช้ Leverage เพื่อสร้างโอกาสในการทำกำไร
แต่นั่นก็ทำให้มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงตามมาด้วยเพราะราคาทองคำอาจผันผวนในระยะสั้น ส่งผลให้เกิดการขาดทุนได้หากไม่มีแผนการลงทุนที่เหมาะสม
4.ภาษีจากการซื้อขายทองคำ
มาถึงเรื่องสำคัญที่หลายคนอาจมองข้ามไปก็คือเรื่อง “ภาษี” ในการซื้อขายทองคำ
ทั้งการซื้อทองคำสองประเภทมีความเหมือนและแตกต่างกันในบางประการ
ภาษีจากการซื้อขายทองคำ Physical Gold
การซื้อขายทองคำแท่งและทองรูปพรรณในประเทศไทย ไม่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เนื่องจากได้รับการยกเว้นภาษีตามมาตรา 42(9) ของประมวลรัษฎากร ซึ่งระบุว่าเงินได้จากการขายสังหาริมทรัพย์ที่ได้มาโดยมิได้มุ่งเน้นทางการค้าหรือหากำไร จะได้รับการยกเว้นภาษี อย่างไรก็ตาม หากมีการซื้อขายทองคำเป็นประจำเพื่อแสวงหากำไร อาจถูกพิจารณาว่าเป็น เงินได้พึงประเมิน และต้องนำไปรวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามอัตราก้าวหน้า นอกจากนี้ หากขายทองคำให้บริษัทหรือสถาบันการเงิน อาจถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 1% ของยอดขาย ก่อนรับเงิน
ภาษีจากการซื้อขายทองคำออนไลน์
หากการซื้อทองคำออนไลน์อยู่ในรูปแบบของ “ออมทอง” จะได้รับการยกเว้นภาษีตาม มาตรา 42(9) ของประมวลรัษฎากร เช่นเดียวกับทองคำแท่งและทองรูปพรรณ แต่หากเป็นการซื้อขายทองคำในลักษณะของ “การเทรด” รายได้ที่เกิดขึ้นอาจถูกพิจารณาว่าเป็น เงินได้พึงประเมิน และต้องนำไปคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามอัตราก้าวหน้า นอกจากนี้ หากมีการ ถอนกำไรจากการเทรดทองคำเข้าสู่บัญชีธนาคารในประเทศไทย อาจต้องพิจารณาภาษีเพิ่มเติมตามกฎหมายภาษีไทยอีกด้วย
5.ความบริสุทธิ์ของทองคำ
ทองคำที่ขายในท้องตลาดมีระดับความบริสุทธิ์ที่ไม่เท่ากันส่งผลให้ราคามีความแตกต่างกัน แล้วการซื้อทองคำแบบจับต้องได้กับการซื้อทองคำแบบออนไลน์มีระดับความบริสุทธิ์ที่แตกต่างกันอย่างไร
ความบริสุทธิ์ของทองคำแบบ Physical Gold
ทองคำแท่งที่นิยมใช้ในการลงทุน เช่น ทองคำ 99.99% (24K) ถือเป็นทองคำบริสุทธิ์ที่สุด แต่ในประเทศไทยกำหนดมาตรฐานของทองคำไว้ที่ 96.5%(23K) ส่วนทองรูปพรรณจะมีเปอร์เซ็นต์ที่ต่ำลงมาที่ 75%(18K) และ 58.5%(14K) เมื่อมีระดับความบริสุทธิ์ของทองคำที่ต่างกันแบบนี้ ส่งผลให้ราคาทองคำแตกต่างกันตามสัดส่วนของทองคำบริสุทธิ์ที่มีอยู่ โดยทองคำที่มีความบริสุทธิ์สูงกว่าจะมีราคาสูงกว่าและได้รับการยอมรับในตลาดสากลมากกว่า
ความบริสุทธิ์ของทองคำออนไลน์
ในการซื้อขายทองคำแบบผ่านออนไลน์จะได้ความบริสุทธิ์เป็นมาตรฐานเดียวกันที่ 99.9% ดังนั้น ความบริสุทธิ์ของทองคำจึงไม่มีผลโดยตรงต่อการซื้อขายออนไลน์เหมือนกับทองคำแท่งหรือทองรูปพรรณ เพราะนักลงทุนไม่ได้รับทองคำจริงมาเก็บไว้ แต่เป็นการเก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำแทน อย่างไรก็ตาม การซื้อขายทองคำออนไลน์ช่วยให้สามารถลงทุนในทองคำบริสุทธิ์สูงสุดได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่ากำเหน็จ ค่าฝากเก็บ หรือค่าประกันภัย เหมือนกับการถือครองทองคำจริง
ซื้อทองคำออนไลน์ หรือซื้อทองคำจริง แบบไหนที่เหมาะกับคุณ ?
จากข้อมูลที่เปรียบเทียบในแง่มุมต่างๆ จะเห็นได้ว่า การซื้อทองคำแท่งและการซื้อทองออนไลน์ ต่างก็มีข้อดีและข้อเสียที่ต้องพิจารณา ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของนักลงทุนหากคุณต้องการถือครองทองคำจริงเพื่อเป็นสินทรัพย์ระยะยาว ทองคำแท่งอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่าแต่ก็มีต้นทุนในการเก็บรักษาและสภาพคล่องอาจไม่สูงเท่าการซื้อขายทองออนไลน์
ในทางกลับกันการซื้อทองคำออนไลน์ช่วยให้คุณสามารถซื้อขายได้ทุกที่ทุกเวลา เข้าถึงตลาดทองคำโลก 24 ชั่วโมง และมีโอกาสทำกำไรจากทั้งราคาขาขึ้นและขาลง อย่างไรก็ตาม ต้องเลือกแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ และบริหารความเสี่ยงให้ดี
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการเริ่มลงทุนในทองคำและสินทรัพย์อื่นๆ ในรูปแบบของ CFD Vantage คือ แพลตฟอร์มที่ช่วยให้การซื้อขายทองคำเป็นเรื่องง่าย ด้วค่าสเปรดที่ต่ำ ให้ Leverage ที่สูงและเปิดให้บริการมานาน 15 ปี เพื่อให้คุณมั่นใจว่าจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุดในการลงทุนของคุณ เปิดบัญชี คลิก