การซื้อขายทองคำให้โอกาสมากมายในการทำกำไรทั้งในระยะสั้น และการเติบโตของการลงทุนในระยะยาว การทำความเข้าใจความแตกต่างของทองคำและวิธีการซื้อขายจะช่วยให้ผู้ซื้อขายสามารถตัดสินใจอย่างรอบรู้และพัฒนากลยุทธ์การซื้อขายที่มีประสิทธิภาพได้
ประเด็นสำคัญ
- การซื้อขายทองคำให้โอกาสในการทำกำไรทั้งในระยะสั้นและการเติบโตในระยะยาวโดยการทำความเข้าใจการเคลื่อนไหวของราคาและแนวโน้มของตลาด
- ปัจจัยต่าง ๆ เช่น อุปทานและอุปสงค์ สภาพเศรษฐกิจ และเหตุการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ ล้วนส่งผลต่อราคาทองคำอย่างมีนัยสำคัญ
- วิธีการซื้อขายทองคำในหลากหลายรูปแบบ เช่น ทองคำแท่ง ETF หุ้นทองคำ และ CFD โดยแต่ละแบบมีระดับความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุนที่แตกต่างกัน
การซื้อขายทองคำคืออะไร และทำไมจึงเป็นที่นิยม
การซื้อขายทองคำ คือการซื้อและขายทองคำเพื่อทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคา เทรดเดอร์สามารถซื้อขายทองคำผ่านการใช้เครื่องมือทางการเงินต่าง ๆ เช่น กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (ETF) สัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์มีทางเลือกมากมายในการรับประโยชน์จากกลยุทธ์ทั้งระยะสั้นและระยะยาว
ทองคำได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีชื่อเสียงว่าเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในช่วงที่เศรษฐกิจไม่แน่นอนและเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ความมั่นคงทางประวัติศาสตร์ ความสามารถในการป้องกันเงินเฟ้อ และสภาพคล่องสูงทำให้ทองคำเป็นตัวเลือกสำหรับการกระจายความเสี่ยงในพอร์ตโฟลิโอของเทรดเดอร์ทุกคน
ทำความเข้าใจตลาดทองคำ
มีองค์ประกอบต่างๆมากมายที่สามารถส่งผลต่อตลาดทองคำและราคาทองคำการทำความเข้าใจปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้เทรดเดอร์คาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาและวางแผนกลยุทธ์การซื้อขายได้ดียิ่งขึ้น
ปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองคำ
อุปทานและอุปสงค์ : การผลิตทองคำทั่วโลก ซึ่งรวมถึงผลผลิตจากการขุดและการรีไซเคิลทองคำเก่า ส่งผลโดยตรงต่อปริมาณทองคำในตลาด ในด้านอุปสงค์ ทองคำเป็นที่ต้องการอย่างมากสำหรับการทำเครื่องประดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศอย่างอินเดียและจีน ซึ่งทองคำมีความสำคัญทางวัฒนธรรมอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลและงานเฉลิมฉลองที่สำคัญ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดศึกษาเกี่ยวกับ การพยากรณ์ราคาทองคำก่อนวันตรุษจีน เพื่อทำความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างทองคำและวันตรุษจีน
นอกจากนี้ ธนาคารกลางทั่วโลกยังซื้อทองคำเพื่อกระจายเงินทุนสำรองและปกป้องเศรษฐกิจจากภาวะเงินเฟ้อและค่าเงินที่อ่อนค่า เมื่อความต้องการทองคำเพิ่มขึ้นในขณะที่อึปทานคงที่ ราคาก็มักจะปรับตัวสูงขึ้น ในทางกลับกัน เมื่ออุปทานเกินความต้องการ ราคาทองคำอาจปรับตัวลง
สภาวะเศรษฐกิจ : ปัจจัยทางเศรษฐกิจ เช่น อัตรา เงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโดยรวม มีบทบาทสำคัญในการผลักดันราคาทองคำ ทองคำมักถูกมองว่าเป็นเครื่องป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ เมื่ออัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น มูลค่าของเงินกระดาษก็จะลดลง ทำให้ทองคำเป็นที่น่าสนใจมากขึ้น เนื่องจากมีแนวโน้มที่จะรักษามูลค่าไว้ได้
อัตราดอกเบี้ยยังส่งผลต่อราคาทองคำอีกด้วย อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจะช่วยลดต้นทุนโอกาสในการถือครองสินทรัพย์ที่ไม่มีดอกเบี้ย เช่น ทองคำ ซึ่งจะทำให้ทองคำมีความน่าดึงดูดใจมากขึ้น ในช่วงที่เศรษฐกิจไม่แน่นอนหรือถดถอย นักลงทุนจะหันไปถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ส่งผลให้ราคาทองคำสูงขึ้น ปัจจัยที่ส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจเหล่านี้อาจทำให้ราคาทองคำผันผวนได้
เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ : ในช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์หรือความไม่มั่นคงทางการเมือง มักส่งผลให้ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น เหตุการณ์ทางการเมือง เช่น สงคราม การเลือกตั้ง และความตึงเครียดทางการทูต สามารถสร้างความไม่แน่นอนในตลาดการเงิน ทำให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำมากขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงที่มีความขัดแย้งหรือเกิดความไม่สงบทางการเมืองอย่างรุนแรง ความเสี่ยงที่รับรู้ได้ในการลงทุนแบบดั้งเดิมจะเพิ่มขึ้น และชื่อเสียงของทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยและมั่นคงก็จะยิ่งเด่นชัดขึ้น ความต้องการทองคำที่เพิ่มขึ้นในช่วงเวลาที่มีความวุ่นวายจะผลักดันให้ราคาทองคำสูงขึ้น
วิธีการซื้อขายทองคำ
แม้ว่าทองคำจะเป็นสินทรัพย์ชนิดเดียว แต่ก็มีหลายวิธีในการซื้อขายและลงทุนในทองคำ เช่น:
ทองคำแท่ง
การซื้อและขายทองคำแท่ง เหรียญ หรือเครื่องประดับ ถือเป็นวิธีการซื้อขายทองคำในวิธีดั้งเดิมที่สุด วิธีนี้เกี่ยวข้องกับการซื้อและเก็บรักษาทองคำจริง ซึ่งอาจให้ประโยชน์ในแง่ของความเป็นเจ้าของที่จับต้องได้ แต่ก็อาจต้องเสียค่าจัดเก็บและการประกันภัย
อย่างไรก็ตาม การมอบทองคำเป็นของขวัญยังคงเป็นที่นิยม เนื่องจากมีมูลค่าทั้งในเชิงจิตใจและทางการเงิน ทำให้การลงทุนในทองคำจริงยังคงมีเสน่ห์ดึงดูดใจ
กองทุน ETF ทองคำ (กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน)
กองทุน ETF ทองคำช่วยให้ผู้ซื้อขายสามารถซื้อและขายหน่วยลงทุนที่เป็นตัวแทนของทองคำปริมาณหนึ่ง กองทุนเหล่านี้มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ทำให้สามารถลงทุนในทองคำได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องจัดการกับการจัดเก็บทองคำจริง โดยกองทุน ETF ทองคำมักจะลงทุนในทองคำแท่งหรือติดตามราคาทองคำ ทำให้ผู้ลงทุนได้รับประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าทองคำ แม้ว่ากองทุนเหล่านี้จะได้รับการหนุนหลังด้วยทองคำจริง แต่ผู้ลงทุนไม่ได้เป็นเจ้าของทองคำโดยตรง แต่พวกเขาจะถือสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับทองคำ ซึ่งทำให้พอร์ตการลงทุนของพวกเขามีความหลากหลายมากขึ้น โดยทั่วไป ETF จะมีต้นทุนต่ำกว่าและมีสภาพคล่องสูง ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมในหมู่ผู้ลงทุน
หุ้นทองคำ
อีกวิธีหนึ่งในการซื้อขายทองคำคือผ่านหุ้นทองคำ เทรดเดอร์สามารถลงทุนในหุ้นของบริษัทเหมืองแร่ซึ่งตอบสนองต่อแรงกดดันด้านราคาที่แตกต่างกันเมื่อเทียบกับการลงทุนในหุ้นประเภทอื่น รวมถึงบริษัทสินค้าโภคภัณฑ์ หุ้นเหมืองแร่ทองคำนั้นตรงไปตรงมามากกว่าการซื้อขายทองคำแท่ง และไม่จำเป็นต้องจัดการกับค่าธรรมเนียมการดูแลรักษา
สิ่งสำคัญที่ต้องทราบคือ หุ้นเหมืองทองคำนั้นแตกต่างจากการลงทุนในทองคำแท่ง แม้ว่าทั้งสองจะมีความเกี่ยวข้องกันอย่างใกล้ชิด แต่ราคาของหุ้นเหมืองทองคำจะเบี่ยงเยนไปจากราคาทองคำแท่งอย่างมาก ตามรายงานในเดือนเมษายน 2024 ทองคำแท่งมีผลงานดีกว่าหุ้นเหมืองทองคำในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยมีอัตรากำไรที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในรอบหลายทศวรรษ [1]
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำ
ทองคำ CFD ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำได้โดยไม่ต้องถือครองสินทรัพย์อ้างอิง เทรดเดอร์สามารถเปิดสถานะขาย (หากเชื่อว่าราคาจะลดลง) หรือเปิดสถานะซื้อ (หากเชื่อว่าราคาจะเพิ่มขึ้น) ทำให้สามารถทำกำไรได้ในทุกสภาวะตลาด
นอกจากนี้ เมื่อทำการซื้อขาย CFD เทรดเดอร์สามารถใช้ประโยชน์จากเลเวอเรจได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลตอบแทนแต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่อาจทำให้ขาดทุนมากขึ้นได้เช่นกัน สิ่งสำคัญคือเทรดเดอร์จะต้องทราบข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะเลเวอเรจของการซื้อขาย CFD ให้ครบถ้วนก่อนทำการซื้อขายใด ๆ
ด้วย Vantage เทรดเดอร์สามารถซื้อขาย ทองคำ CFD ซึ่งเป็นการจับคู่ทองคำกับสกุลเงินหลัก ช่วยให้เข้าถึงตลาดทองคำได้อย่างสะดวก
วิธีการซื้อขายทองคำใน Forex
การซื้อขายทองคำในตลาดฟอเร็กซ์นั้นคล้ายกับการซื้อขายคู่สกุลเงิน ตัวเลือกที่ได้รับความนิยมคือคู่ XAU/USD ซึ่งแสดงถึงราคาทองคำเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ คู่นี้ทำงานเหมือนกับคู่สกุลเงินฟอเร็กซ์อื่น ๆ โดยช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐได้
เมื่อเทรดเดอร์เปิดสถานะซื้อคู่ XAU/USD พวกเขากำลังซื้อทองคำ (XAU) โดยการขายดอลลาร์สหรัฐ (USD) ในทางกลับกัน เมื่อเทรดเดอร์เปิดสถานะขายคู่ XAU/USD พวกเขากำลังขายทองคำ (XAU) เพื่อซื้อดอลลาร์สหรัฐ (USD)
เมื่อปิดสัญญาการซื้อขายแล้ว ความแตกต่างของราคาจะถูกคำนวนได้รับการจ่ายเงิน ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ดำเนินการ (ซื้อหรือขาย) และความแตกต่างของราคา (สูงขึ้นหรือต่ำลง) เทรดเดอร์จะได้รับกำไรหรือขาดทุนตามนั้น
จะเลือกวิธีการซื้อขายทองคำของคุณอย่างไร?
การเลือกแนวทางการซื้อขายทองคำที่ถูกต้องนั้นขึ้นอยู่กับเป้าหมายการซื้อขาย ความสามารถในการรับความเสี่ยง และทักษะในการวิเคราะห์ตลาด การเข้าใจความแตกต่างระหว่างกลยุทธ์การซื้อขายระยะสั้นและระยะยาวสามารถช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดีขึ้น
การซื้อขายทองคำ: ระยะสั้น vs ระยะยาว
การซื้อขายทองคำในระยะสั้นเน้นที่การใช้ประโยชน์จากความผันผวนของราคาในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เช่น ไม่กี่วันหรือไม่กี่สัปดาห์ นักเทรดทั่วไปมักใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อระบุแนวโน้มและตัดสินใจอย่างรวดเร็ว แนวทางนี้ช่วยให้ได้กำไรอย่างรวดเร็ว แต่ก็มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากความผันผวนของตลาด โดยนักเทรดประเภท Day Trader และ Swing Trader มักจะใช้กลยุทธ์นี้โดยมุ่งเน้นไปที่การทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของตลาดในช่วงสั้น ๆ และราคาที่แกว่งตัว
ในทางกลับกัน การซื้อขายทองคำในระยะยาวนั้นเกี่ยวข้องกับการถือครองการลงทุนในทองคำเป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปี กลยุทธ์นี้ตั้งอยู่บนความเชื่อที่ว่าทองคำจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ส่งผลให้ได้รับผลตอบแทนที่มั่นคง และทำหน้าที่เป็นเครื่องป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อและภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ นักลงทุนระยะยาวจะเน้นที่การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน โดยพิจารณาปัจจัยทางเศรษกิจต่าง ๆๆเช่น ตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจ เสถียรภาพทางภูมิรัฐศาสตร์ และนโยบายของธนาคารกลาง แนวทางนี้หลีกเลี่ยงความเครียดจากการเปลี่ยนแปลงราคาระยะสั้น และมีจำนวนธุรกรรมที่น้อยกว่า ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาผลตอบแทนที่ค่อยเป็นค่อยไปและมั่นคงในระยะยาว
การยอมรับความเสี่ยง
วิธีการซื้อขายทองคำแต่ละวิธีมีความเสี่ยงที่แตกต่างกัน ดังนั้น สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาถึงระดับความเสี่ยงว่าคุณสามารถรับได้มากน้อยเพียงใดเป็นสิ่งสำคัญ การซื้อขายระยะสั้นอาจให้ผลตอบแทนที่รวดเร็ว แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะสูญเสียอย่างรวดเร็วเนื่องจากความผันผวนของตลาดเช่นกัน การซื้อขายระยะยาวมีความเสี่ยงน้อยกว่า แต่ต้องใช้ความอดทนและความสามารถในการรับมือต่อความผันผวนของของตลาดในระยะยาว
การประเมินระดับการยอมรับความเสี่ยงของคุณเกี่ยวข้องกับการทำความเข้าใจว่าคุณสามารถยอมรับการขาดทุนได้มากแค่ไหน และผลกระทบต่อสถานการณ์ทางการเงินโดยรวมของคุณอย่างไร หากคุณสามารถยอมรับความเสี่ยงสูงและต้องการโอกาสในการได้รับกำไรหรือขาดทุนจำนวนมาก การซื้อขายระยะสั้นอาจเหมาะกับคุณ ในทางกลับกัน หากคุณต้องการแนวทางที่ปลอดภัยมากกว่าโดยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและความเสี่ยงต่ำ การซื้อขายระยะยาวอาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า การทำความเข้าใจระดับการยอมรับความเสี่ยงของคุณถือเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนากลยุทธ์การซื้อขายที่สอดคล้องกับเป้าหมายทางการเงินและระดับความสบายใจส่วนบุคคลของคุณ
วิธีการซื้อขายทองคำ CFD กับ Vantage
นี่คือวิธีเริ่มต้นและซื้อขาย CFD ทองคำกับ Vantage
เปิดบัญชีจริง
หากต้องการเริ่มซื้อขายกับ Vantage ก่อนอื่นคุณต้องเปิดบัญชีจริงก่อน บัญชีนี้จะช่วยให้คุณสามารถซื้อขายทองคำและสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องได้ โดยให้สิทธิ์เข้าถึง CFD ที่มีอยู่บนแพลตฟอร์ม Vantage Markets
การเปิดบัญชีจริงนั้นง่ายมาก เพียงแค่คุณกรอกใบสมัครออนไลน์และจัดเตรียมเอกสารยืนยันตัวตนที่จำเป็น เมื่อบัญชีของคุณได้รับการยืนยันแล้ว คุณก็พร้อมที่จะเริ่มซื้อขายในตลาดจริงได้ในทันที
เลือกแพลตฟอร์มสำหรับการซื้อขายทองคำ CFD
Vantage นำเสนอแพลตฟอร์มการซื้อขายที่หลากหลายสำหรับการซื้อขายทองคำ CFD ช่วยให้คุณมีเครื่องมือและฟีเจอร์ที่เหมาะกับสไตล์การซื้อขายของคุณมากที่สุด ไม่ว่าคุณจะชอบการซื้อขายบนเดสก์ท็อป เว็บ หรือมือถือ Vantage ก็มีแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่ายพร้อมเครื่องมือสร้าง
กราฟ
ขั้นสูง ข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์ และอินเทอร์เฟซที่ปรับแต่งได้เพื่อยกระดับประสบการณ์การซื้อขายของคุณ
วิธีการซื้อขายทองคำ CFD บน MT4 และ MT5
การซื้อขาย CFD ทองคำบน MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5) กับ Vantage เป็นเรื่องง่าย
ขั้นแรก ให้เข้าสู่ระบบบัญชี Vantage ของคุณ ค้นหาสัญลักษณ์ทองคำ (XAU/USD) ในหน้าต่าง ‘Market Watch’ จากนั้นคลิกขวาเพื่อเลือก ‘New Order’ เลือกประเภทคำสั่งของคุณ ตั้งค่าขนาดการซื้อขายของคุณ สุดท้าย ตรวจสอบคำสั่งของคุณ แล้วคลิก ‘Buy’ หรือ ‘Sell’ เพื่อดำเนินการซื้อขาย
ความแตกต่างระหว่างการซื้อขาย CFD ทองคำบน MT4 และ MT5
- สินทรัพย์สำหรับการซื้อขาย : ทั้ง MT4 และ MT5 ช่วยให้คุณสามารถซื้อขาย CFD ของทองคำ (XAU/USD) ได้ แต่ MT5 นั้นมีเครื่องมือการซื้อขายที่หลากหลายกว่า รวมถึงสินค้าโภคภัณฑ์ หุ้น และสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามากขึ้นผ่าน CFD
- ประเภทคำสั่ง : MT5 มีประเภทคำสั่งให้เลือกมากขึ้น เช่น buy-stop-limit และ sell-stop-limit ช่วยให้มีกลยุทธ์การซื้อขายที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น
- กรอบเวลาและกราฟ: MT5 มีกรอบเวลาเพิ่มเติมและเครื่องมือสร้างกราฟขั้นสูงมากกว่า MT4 ซึ่งช่วยในการวิเคราะห์ตลาดได้อย่างละเอียดมากยิ่งขึ้น
ฝากเงินเข้าบัญชีซื้อขายของคุณ
ฝากเงินเข้าบัญชีซื้อขายของคุณเพื่อเริ่มซื้อและขายทองคำหรือตราสารที่เกี่ยวข้อง
กับทองคำผ่าน CFD ขั้นตอนนี้มีความสำคัญในการเริ่มซื้อขาย และสามารถดำเนินการได้อย่างง่ายดายผ่านบัญชี Vantage ของคุณ Vantageมีตัวเลือกการฝากเงินหลากหลายรูปแบบเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเทรดเดอร์ทำให้ขั้นตอนนี้สะดวกและมีประสิทธิภาพ
พัฒนากลยุทธ์การซื้อขายด้วยสื่อการเรียนรู้ของเรา
ศึกษาและพัฒนากลยุทธ์การซื้อขายที่สอดคล้องกับเป้าหมาย และความสามารถในการรับความเสี่ยงของคุณ Vantage มีแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เช่น Vantage Academy คอร์สเรียนออนไลน์ และ eBook เพื่อช่วยให้คุณเรียนรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานที่ใช้ในการซื้อขายทองคำ
คุณยังสามารถใช้ บัญชีทดลองการซื้อขายเพื่อทดสอบกลยุทธ์ของคุณได้โดยไม่ต้องเสี่ยงใช้เงินจริง ทำให้คุณปรับปรุงแนวทางและสร้างความมั่นใจของคุณได้
สิ่งสำคัญที่ต้องรู้เกี่ยวกับการซื้อขายทองคำ
การซื้อขายทองคำเปิดโอกาสให้ทั้งสำหรับการทำกำไรในระยะสั้น และการลงทุนเพื่อการเติบโตในระยะยาว การทำความเข้าใจตลาดทองคำ รวมถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น อุปทานและอุปสงค์ สภาวะเศรษฐกิจ และเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ สามารถช่วยให้คุณตัดสินใจซื้อขายอย่างมีข้อมูล
การเลือกแนวทางการซื้อขายที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นระยะสั้นหรือระยะยาว พร้อมทั้งการประเมินระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของคุณ จะช่วยให้คุณสามารถปรับกลยุทธ์ของให้สอดคล้องกับเป้าหมายทางการเงินของคุณได้
พร้อมที่จะซื้อขายทองคำ CFD แล้วหรือยัง? เปิดบัญชีซื้อขายจริงกับ Vantage วันนี้และเริ่มต้นเส้นทางการซื้อขายของคุณ!
อ้างอิง:
- “Charted: The Value Gap Between the Gold Price and Gold Miners – Visual Capitalist” https://elements.visualcapitalist.com/gold-price-vs-gold-mining-stocks/ เข้าถึงเมื่อ 28 สิงหาคม 2024