จิตวิทยาการลงทุนกับ AI อะไรเก่งกว่ากัน ?
ในโลกของการเทรดให้ประสบความสำเร็จ บ่อยครั้งมือใหม่มักจะยึดติดกับข้อมูลและตัวเลขมากเกินไป แต่นักเทรดที่ดี จะไม่ได้พึ่งพาแค่ตัวเลขและความเข้าใจเชิงเทคนิคอย่างเดียว แต่ต้องมีทั้ง “ศาสตร์” และ “ศิลป์” ที่ต้องใช้ความทุ่มเทและฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง จนเกิดเป็นกลยุทธ์ในการเทรดที่เป็นเฉพาะตัว
แต่ในปัจจุบัน การมาของ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ มีบทบาทในโลกการเทรดมากขึ้น เช่น ChatGPT ซึ่งมีความสามารถในการย่อยและวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ที่ช่วยอำยนวยความสะดวกให้กับนักเทรดได้มาก จากที่แต่ก่อนการวิเคราะห์ข้อมูล แนวโน้มตลาดอาจต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมง แต่ AI สามารถช่วยอ่านกราฟการเทรด รวมถึงค้นหาข้อมูลเชิงลึกได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว
เมื่อ AI มีบทบาทมากขึ้นเช่นนี้ คำถามที่มักจะตามมา คือ แล้ว AI แทนที่คนได้เลยไหม ?
หรือนักเทรดควรพึ่งพาเทคโนโลยีมากน้อยแค่ไหน? แม้ว่า ChatGPT จะเป็นตัวช่วยที่ทรงพลัง แต่สุดท้ายก็ยังเป็นเพียงเครื่องมือ ไม่สามารถเข้ามาแทนที่นักเทรดที่เป็นมนุษย์ได้ทั้งหมด และยังมีข้อจำกัดหลายประการเมื่อเทียบกับความสามารถของมนุษย์
David Shayer, CEO, Vantage UK
บริบทการใช้งานที่เหมาะสม
ประการแรก ChatGPT เป็นเครื่องมือที่ให้ข้อมูลที่ตรงไปตรงมาซึ่งพึ่งพาได้ในเชิง “ศาสตร์” แต่ไม่ช่วยในเชิง “ศิลป์” เพราะการเทรดไม่ได้อาศัยแค่การวิเคราะห์ข้อมูลเพียงอย่างเดียว ยังมีปัจจัยอื่นที่ส่งผลกระทบต่อการเทรดไม่ว่าจะเป็นบริบททางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง สิ่งเหล่านี้มีบทบาทสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของตลาดทั้งสิ้น ซึ่ง AI ยังคงขาดความเข้าใจในเรื่องนี้ แม้ว่าจะสามารถประมวลผลข้อมูลจำนวนมากได้ แต่ไม่สามารถวิเคราะห์บริบทในเชิงลึกที่อาจส่งผลต่อการตัดสินใจการเทรดได้ดีเท่ากับจิตวิทยาของมนุษย์
อีกทั้ง AI ยังไม่สามารถผสมผสานปัจจัยเชิงอัตนัยได้ เช่น ประสบการณ์ส่วนตัว สัญชาตญาณ และอารมณ์เข้ากับกระบวนการตัดสินใจ แน่นอนว่าการเทรดไม่ควรปล่อยให้อารมณ์มีผลกระทบมากเกินไปต่อการตัดสินใจ แต่การใช้สัญชาตญาณจากความเข้าใจบริบทและประสบการณ์ยังคงเป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจที่แม่นยำ ดังนั้น หากคุณเลือกพึ่งพา AI แบบ 100% ก็มีความเสี่ยงต่อการพลาดสิ่งสำคัญที่เทคโนโลยีอาจไม่สามารถมองเห็นได้
ในทางกลับกัน สัญชาตญาณเป็นผลลัพธ์จากประสบการณ์ ความรู้ และความฉลาดทางอารมณ์ของมนุษย์ แม้ว่าการประมวลผลข้อมูลเราอาจไม่เก่งเท่า AI แต่ในบางจังหวะ สัญชาตญาณของมนุษย์ก็เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพอย่างมาก
รับมือกับสิ่งที่ไม่คาดคิด
อีกข้อจำกัดหนึ่งของ AI ในปัจจุบันคือ การทำงานได้เฉพาะกับข้อมูลที่ถูกฝึกฝนมา ซึ่งหมายความว่ามันสามารถวิเคราะห์เฉพาะสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ทำให้ไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับเหตุการณ์หรือการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดในตลาดได้
ในยุคที่โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การเทรดมักจะต้องเจอกับสิ่งที่ไม่คาดคิดเสมอ เราทุกคนรู้ดีว่าการเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่ไม่คาดคิดเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่ง AI อาจพึ่งพาสิ่งที่มัน “รู้” มากเกินไปจากชุดข้อมูลที่ได้รับมา และมักจะมองข้ามสิ่งที่ยังไม่รู้ เหตุการณ์ใหญ่ๆ เช่น โรคระบาด สงครามในยุโรป หรือการล่มสลายของธนาคารในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาชี้ให้เห็นชัดว่า เทคโนโลยียังคงต้องเป็นเพียงเครื่องมือช่วยเสริมเท่านั้น
นอกจากนี้ ChatGPT ยังมีปัญหาในการวิเคราะห์ข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้าง เช่น บทความข่าวหรือโพสต์บนโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญสำหรับนักเทรด โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนหรือเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว การขาดความสามารถในด้านนี้ทำให้ AI ยังไม่สามารถทดแทนมนุษย์ได้ 100%
ใช้ให้เป็นประโยชน์ แต่ไม่ใช่ทุกอย่าง
แน่นอนว่า ChatGPT สามารถทำงานได้ดีในด้านการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากและการค้นหารูปแบบที่บางครั้งนักเทรดที่เป็นคนอย่างเราๆ ก็อาจจะมองไม่เห็น แต่ก็ต้องระวังข้อจำกัดและความเสี่ยงต่างๆ ก่อนตัดสินใจโดยอาศัยข้อมูลที่สร้างขึ้นจาก AI เพียงอย่างเดียว
นักเทรดที่ดียังคงต้องมี “ศิลป์” ในกลยุทธ์การเทรดไว้ เช่นเดียวกับ AI ก็ควรเป็นเครื่องมือที่ช่วยเสริมความสามารถทาง “ศาสตร์” ของนักเทรด มากกว่าจะเข้ามาแทนที่ทั้งหมด
สุดท้ายแล้ว สัญชาตญาณมนุษย์กับ AI อะไรเก่งกว่ากันนั้น คงขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่พบเจอ เข่น ความซับซ้อนของงาน ชุดข้อมูลที่ต้องการวิเคราะห์ และประสบการณ์ของนักเทรด หากว่าคุณสามารถนำข้อดีของทั้งสองสิ่งมาใช้ทำงานร่วมกันได้ การเทรดของคุณก็จะประสบความสำเร็จได้มากขึ้น
ผู้เขียน: David Shayer, CEO, Vantage UK