Updated 
ในตลาดการเงิน ข่าวสารมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทัศนคติของนักลงทุนและแนวโน้มของตลาด ท่ามกลางกลยุทธ์การซื้อขายมากมายที่ใช้โดยเทรดเดอร์ การซื้อขายตามข่าวมีความโดดเด่นในด้านการมีส่วนร่วมโดยตรงกับเหตุการณ์และข้อมูลข่าวสารแบบเรียลไทม์
เมื่อพูดถึงข่าวและการซื้อขาย มีคำพูดว่า ‘ซื้อข่าวลือ ขายข่าว’ ซึ่งเน้นว่าแนวโน้มของตลาดและการกระทำของเทรดเดอร์มักจะเป็นไปตามรูปแบบอย่างไร แต่คำพูดนี้จริงแค่ไหน และจะนำไปใช้ได้อย่างไร? ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกเกี่ยวกับการซื้อขายข่าวในฐานะกลยุทธ์ ในขณะที่วิเคราะห์แนวคิด “ซื้อข่าวลือ ขายข่าว”
ประเด็นสำคัญ
- การซื้อขายตามข่าวจะใช้ประโยชน์จากเหตุการณ์และข้อมูลแบบเรียลไทม์เพื่อมีอิทธิพลต่อแนวโน้มของตลาด โดยมุ่งเน้นไปที่ข่าวเศรษฐกิจ การเมือง และองค์กรเพื่อคาดการณ์ปฏิกิริยาของตลาด
- ด้านจิตวิทยา รวมถึงปรากฏการณ์ ‘ซื้อข่าวลือ ขายข่าว’ เน้นถึงความสำคัญของการทำความเข้าใจอารมณ์ของตลาดและพฤติกรรมการทำตามฝูงชนในทิศทางเดียวกันในการซื้อขาย
- การซื้อขายข่าวที่มีประสิทธิภาพต้องใช้เครื่องมือ เช่น ปฏิทินเศรษฐกิจ ฟีดข่าวแบบเรียลไทม์ เครื่องมือวิเคราะห์ความรู้สึก และระบบการซื้อขายอัตโนมัติ ควบคู่ไปกับกลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงที่แข็งแกร่ง
การซื้อขายตามข่าวคืออะไร?
การซื้อขายตามข่าวเป็นกลยุทธ์ที่เทรดเดอร์ทำการตัดสินใจโดยพิจารณาจากข่าวประชาสัมพันธ์และเหตุการณ์ระดับโลก ดำเนินการโดยเข้าใจว่าข่าวมีอิทธิพลอย่างมากต่อมูลค่าสินทรัพย์และอารมณ์ของตลาด
ด้วยการวิเคราะห์ปฏิทินเศรษฐกิจ รายงานผลประกอบการของบริษัท ข่าวการเมือง และอื่น ๆ เทรดเดอร์พยายามคาดการณ์ปฏิกิริยาของตลาดและปรับตำแหน่งของตนเพื่อสร้างผลตอบแทนจากการเคลื่อนไหวที่คาดการณ์ไว้ แนวทางนี้ไม่เพียงแต่ต้องตอบสนองต่อข่าวเท่านั้น แต่ยังต้องคาดการณ์ถึงผลกระทบที่มีต่อตลาดล่วงหน้าอีกด้วย
ต่างจากการวิเคราะห์ทางเทคนิคซึ่งอาศัยข้อมูลราคาและรูปแบบในอดีต การซื้อขายตามข่าวมุ่งเน้นไปที่ผลกระทบของการประกาศทางเศรษฐกิจ การเมือง และองค์กร กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในการซื้อขายตามข่าวคือความสามารถในการตีความข่าวอย่างรวดเร็วและดำเนินการก่อนที่มันจะเกิดขึ้นในตลาด นักเทรดตามข่าวที่มีประสิทธิภาพคือผู้ที่สามารถนำทางองค์ประกอบเหล่านี้ได้อย่างเชี่ยวชาญ วางตำแหน่งตัวเองเพื่อสร้างผลตอบแทนตามการตอบสนองของตลาดต่อข่าว
ประเภทของข่าวและผลกระทบต่อตลาด
ผลกระทบของข่าวต่อตลาดการเงินอาจแตกต่างกันอย่างมากโดยขึ้นอยู่กับลักษณะและความสำคัญของข้อมูลที่เผยแพร่ ข่าวสามารถแบ่งได้กว้าง ๆ เป็นหมวดหมู่ทางเศรษฐกิจ การเมือง และตามเหตุการณ์:
- ข่าวเศรษฐกิจ : ซึ่งรวมถึงการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย รายงานการจ้างงาน ตัวเลข GDP และข้อมูลเงินเฟ้อ ข่าวดังกล่าวอาจทำให้เกิดความผันผวนอย่างมีนัยสำคัญในตลาด เนื่องจากส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ และโดยการขยายมูลค่าของสกุลเงินและหลักทรัพย์ของประเทศ คุณสามารถค้นหาข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดได้ในปฏิทิน เศรษฐกิจของเรา
- ข่าวการเมือง : ผลการเลือกตั้ง ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ การเจรจาการค้า และการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบล้วนจัดอยู่ในหมวดหมู่นี้ การพัฒนาทางการเมืองอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของตลาดและกระตุ้นให้เกิดความผันผวนของราคาสินทรัพย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการเปลี่ยนแปลงนโยบาย นั่นเป็นสาเหตุที่ตลาดจับตาดูเหตุการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ ๆ เช่น การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังจะมาถึง
- ข่าวที่ขับเคลื่อนด้วยเหตุการณ์ : ครอบคลุมถึงการประกาศของบริษัท เช่น การเปิดเผยรายได้ การควบรวมและซื้อกิจการ และการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ เหตุการณ์เหล่านี้สามารถนำไปสู่การเคลื่อนไหวของราคาอย่างมีนัยสำคัญในแต่ละหุ้นหรือภาคส่วน มอบโอกาสที่ทำกำไรให้กับเทรดเดอร์
การทำความเข้าใจด้านจิตวิทยาของการซื้อขายข่าว
ความสำเร็จของการซื้อขายข่าวไม่เพียงแต่ขึ้นอยู่กับรายละเอียดข้อเท็จจริงของข่าวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการทำความเข้าใจและคาดการณ์ว่าตลาดจะตอบสนองต่อข่าวอย่างไร
แนวคิดของ ‘ซื้อข่าวลือ ขายข่าว’ แสดงให้เห็นว่าสิ่งนี้ทำงานอย่างไร: เทรดเดอร์มักจะดำเนินการกับสิ่งที่พวกเขาคิดว่าจะเกิดขึ้น ซึ่งมีอิทธิพลต่อตลาดแม้กระทั่งก่อนที่จะมีข่าวจริงออกมาเสียอีก ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับจิตวิทยาของเทรดเดอร์นี้เป็นการปูทางสำหรับการสำรวจแง่มุมเชิงลึกของการเปลี่ยนแปลงของตลาด เช่น ความรู้สึกของตลาดและพฤติกรรมการทำตามฝูงชน ซึ่งมีอิทธิพลต่อการซื้อขายตามข่าว
ทำความเข้าใจความเชื่อมั่นของตลาด
ความเชื่อมั่นของตลาดหมายถึงทัศนคติโดยรวมของนักลงทุนและเทรดเดอร์ที่มีต่อตลาดการเงินหรือสินทรัพย์เฉพาะ ซึ่งส่งผลต่อแนวโน้มที่พวกเขาจะทำการซื้อหรือขาย เป็นการวัดโดยใช้ตัวชี้วัดต่าง ๆ เช่น ดัชนีความผันผวน (VIX) การสำรวจตลาด และการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาและปริมาณการซื้อขาย
ด้วยการวัดความเชื่อมั่นของตลาด เทรดเดอร์สามารถคาดการณ์แนวโน้มของตลาดและตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล ตัวอย่างเช่น ความรู้สึกเชิงบวกอาจบ่งบอกถึงช่วงเวลาที่ดีในการซื้อก่อนที่ราคาจะสูงขึ้น ในขณะที่ความรู้สึกเชิงลบบ่งบอกว่าควรที่จะขาย
การทำความเข้าใจและการใช้ประโยชน์จากความเชื่อมั่นของตลาดช่วยให้เทรดเดอร์สามารถวางตำแหน่งตัวเองได้ดีกว่าการเคลื่อนไหววสำคัญ ที่เกิดจากเหตุการณ์ข่าว
พฤติกรรมการลงทุนและผลกระทบ
พฤติกรรมการทำตามฝูงชน (Herding Behavior) เป็นปรากฏการณ์ที่เทรดเดอร์ติดตามการกระทำของคนส่วนใหญ่ในตลาด โดยมักจะไม่สนใจการวิจัยของตนเองหรือมูลค่าพื้นฐานของสินทรัพย์ พฤติกรรมนี้อาจนำไปสู่แนวโน้มของตลาดที่เกินจริง เนื่องจากเทรดเดอร์รีบซื้อหรือขายโดยอิงจากการกระทำของผู้อื่น แทนที่จะวิเคราะห์โดยอิสระ
โดยตัวชี้วัดต่าง ๆ เช่น ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงราคาที่สำคัญโดยไม่มีเหตุผลพื้นฐาน และการวิเคราะห์ความรู้สึกทางโซเชียลมีเดีย
ตำนานหุ้น GameStop ในปี 2021 เป็นตัวอย่างสำคัญของพฤติกรรมการทำตามฝูงชนในตลาดการเงิน ซึ่งมีนักลงทุนรายย่อยจำนวนมากถูกขับเคลื่อนโดยการสนทนาในฟอรัม WallStreetBets ของ Redditt และตัดสินใจซื้อหุ้นของบริษัทเป็นจำนวนมาก [1] การดำเนินการร่วมกันนี้ส่วนใหญ่ไม่สนใจสุขภาพทางการเงินของบริษัทที่ย่ำแย่ ส่งผลให้ราคาหุ้นของ GameStop เพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้เกิดการสูญเสียอย่างมีนัยสำคัญสำหรับกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่เดิมพันกับบริษัทด้วยการขายชอร์ตหุ้น
หุ้นของ GameStop ซึ่งซื้อขายต่ำสุดที่ 2.57 ดอลลาร์ต่อหุ้นในเดือนเมษายน 2020 ทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุดที่ 483 ดอลลาร์ในเดือนมกราคม 2564 [2] หลังจากการแยกหุ้นแบบ 4 ต่อ 1 ในเดือนกรกฎาคม 2565 ราคาสูงสุดที่ปรับปรุงแล้วกลายเป็น 86.88 ดอลลาร์หลังการแยกหุ้น [3] สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงผลกระทบอย่างรวดเร็วและรวดเร็วของพฤติกรรมการทำตามฝูงชน
เครื่องมือของเทรดเดอร์ตามข่าว
เทรดเดอร์ตามข่าวเตรียมเครื่องมือและกลยุทธ์ที่หลากหลายเพื่อสำรวจสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของตลาดการเงิน เครื่องมือเหล่านี้มักประกอบด้วย:
- ปฏิทินเศรษฐกิจ : ปฏิทินเหล่านี้แสดงรายการกิจกรรมทางเศรษฐกิจตามกำหนดการ เช่น การประชุมธนาคารกลาง รายงานการจ้างงาน และการประกาศ GDP เพื่อให้เทรดเดอร์ได้ทราบแผนงานของเหตุการณ์ที่เคลื่อนไหวในตลาดได้
- ฟีดข่าวแบบเรียลไทม์: การเข้าถึงการอัปเดตข่าวด่วนถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ตามข่าว หลายคนพึ่งพาแพลตฟอร์มข่าวทางการเงินที่นำเสนอการแจ้งเตือนและการวิเคราะห์แบบเรียลไทม์
- เครื่องมือวิเคราะห์ความรู้สึก : เครื่องมือเหล่านี้วิเคราะห์ความรู้สึกของตลาดโดยการสแกนหัวข้อข่าว โซเชียลมีเดีย และข้อมูลข้อความอื่น ๆ เพื่อวัดอารมณ์ของตลาดต่อเหตุการณ์ข่าวบางอย่าง
- ระบบการซื้อขายอัตโนมัติ: นักเทรดตามข่าวบางรายใช้ระบบอัตโนมัติเพื่อดำเนินการซื้อขายด้วยความเร็วสูง ซึ่งเป็นเทคนิคที่เรียกว่าการซื้อขายแบบอัลกอริทึม เพื่อใช้ประโยชน์จากเหตุการณ์ข่าวก่อนที่ตลาดจะสามารถตอบสนองได้อย่างเต็มที่
การบริหารความเสี่ยงในการซื้อขายตามข่าว
การตั้งค่าคำสั่ง Stop-Loss และ Take-Profit
การจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิผลเป็นสิ่งสำคัญในการซื้อขายตามข่าวเนื่องจากมี ความผันผวน สูงที่เกี่ยวข้องกับข่าวประชาสัมพันธ์ การตั้งค่าคำสั่ง Stop-Loss และ Take-Profit สามารถช่วยให้เทรดเดอร์จัดการความเสี่ยงได้โดยการระบุระดับราคาที่จะออกจากการซื้อขาย ไม่ว่าจะเป็นขาดทุนหรือกำไร
นอกจากนี้ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ ความผันผวนของตลาด โดยการอ่านบทความที่ครอบคลุมของเราเพื่อทำความเข้าใจสาเหตุ ผลกระทบ และกลยุทธ์ที่เทรดเดอร์สามารถใช้เพื่อสำรวจโอกาสต่าง ๆ
การกระจายความเสี่ยง
การกระจายความเสี่ยง ในประเภทสินทรัพย์และตลาดที่แตกต่างกันสามารถลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายตามข่าวได้ ด้วยการกระจายการซื้อขาย เทรดเดอร์สามารถลดผลกระทบของเหตุการณ์ข่าวเชิงลบต่อพอร์ตโฟลิโอโดยรวมของพวกเขาได้
แนวทางนี้ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถสร้างสมดุลระหว่างการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นในการซื้อขายหนึ่งกับกำไรในอีกการซื้อขายหนึ่ง สร้างสภาพแวดล้อมทางการเงินที่มั่นคงแม้จะเผชิญกับการพัฒนาข่าวที่ไม่อาจคาดเดาได้
ความสำคัญของแผนการเทรด
แผนการเทรดที่มีการกำหนดไว้อย่างดี รวมถึงกลยุทธ์การเข้าออกและการบริหารความเสี่ยงที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสำเร็จในการซื้อขายตามข่าว แผนนี้ควรคำนึงถึงลักษณะของเหตุการณ์ข่าวที่ไม่สามารถคาดเดาได้ และจัดให้มีกรอบที่ชัดเจนสำหรับการตัดสินใจซื้อขายอย่างมีวินัย
ค้นพบวิธีพัฒนา แผนการซื้อขาย พร้อมบทความที่ครอบคลุมของเรา เรียนรู้ว่าแผนการซื้อขายประกอบด้วยอะไรบ้าง และแผนดังกล่าวจะเปลี่ยนเส้นทางการซื้อขายของคุณได้อย่างไร
ตัวอย่าง ‘ซื้อข่าวลือ ขายข่าว’
ตัวอย่างทั่วไปของกลยุทธ์ ‘ซื้อข่าวลือ ขายข่าว’ มีให้เห็นในรายงานผลประกอบการของบริษัท และ ประกาศอัตราดอกเบี้ย ของธนาคารกลาง เทรดเดอร์มักจะซื้อหุ้นหรือสกุลเงินตามการคาดการณ์ผลลัพธ์เชิงบวก เช่น ผลประกอบการของบริษัทที่สูงขึ้นหรือความคาดหวัง การปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ย โดยได้แรงหนุนจากข่าวลือหรือการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
การซื้อแบบเก็งกำไรนี้ดันราคาให้สูงขึ้นก่อนเกิดเหตุการณ์จริง อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการรายงานผลประกอบการหรือประกาศการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย แม้ว่าผลลัพธ์จะเป็นเชิงบวกหรือตรงตามความคาดหวัง ราคาก็มักจะลดลงเมื่อเทรดเดอร์ขายสถานะของตนเพื่อหากำไร
พฤติกรรมนี้ตอกย้ำแก่นแท้ของกลยุทธ์ ‘ซื้อข่าวลือ ขายข่าว’ ซึ่งการคาดการณ์ถึงเหตุการณ์จะมีผลกระทบต่อราคาอย่างมีนัยสำคัญมากกว่าตัวเหตุการณ์เอง
ตัวอย่างเช่น เพื่อคาดการณ์ถึงงาน “Battery Day” ของ Tesla ในเดือนกันยายน 2563 ซึ่งมีข่าวลือว่าจะเปิดตัวเทคโนโลยีแบตเตอรี่ปฏิวัติวงการ ราคาหุ้นของบริษัทพุ่งขึ้นจาก 110.07 ดอลลาร์ในวันที่ 8 กันยายน 2563 เป็น 149.80 ดอลลาร์ในวันที่ 21 กันยายน 2563 โดยได้แรงหนุนจากการมองโลกในแง่ดีและความตื่นเต้นสำหรับงาน [4].
อย่างไรก็ตาม การประกาศของงานแม้จะเป็นไปในทางบวก แต่ก็ไม่ได้เป็นไปตามความคาดหวังอย่างในข่าวลือ ส่งผลให้ราคาหุ้นของ Tesla ลดลง 10% เนื่องจากนักลงทุนที่ซื้อตามข่าวลือตัดสินใจที่จะทำกำไรและขายหุ้นที่ถือครองออกไป [5]
บทสรุป
การซื้อขายตามข่าวแสดงถึงแนวทางที่ซับซ้อนและมีพลวัตต่อตลาดการเงิน โดยใช้ประโยชน์จากผลกระทบทันทีของข่าวต่อความเชื่อมั่นของตลาดและมูลค่าสินทรัพย์ กลยุทธ์ “ซื้อข่าวลือ ขายข่าว” รวบรวมความซับซ้อนทางจิตวิทยาของการซื้อขาย ซึ่งความคาดหวังและการเก็งกำไรมักจะขับเคลื่อนการเคลื่อนไหวของตลาดอย่างมีนัยสำคัญมากกว่าเหตุการณ์ข่าวลงทะเบียนเปิด บัญชีจริง กับ Vantage และใช้เครื่องมือ ความคิดเห็นของลูกค้า เพื่อช่วยระบุความรู้สึกของตลาดและมูลค่าสินทรัพย์อย่างแม่นยำ ยกระดับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณให้ดียิ่งขึ้นด้วย Vantage’s สัญญาณการซื้อขาย ที่ได้มาจากการวิเคราะห์ทางเทคนิคหรือพื้นฐานอย่างพิถีพิถัน สัญญาณเหล่านี้สามารถให้คำแนะนำอย่างทันท่วงทีสำหรับการเข้าหรือออกจากการซื้อขาย ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถตัดสินใจได้ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยตัวชี้วัดที่ครอบคลุมและการประเมินตลาด
อ้างอิง
- “The GameStop stock frenzy, explained – Vox” https://www.vox.com/the-goods/22249458/gamestop-stock-wallstreetbets-reddit-citron เข้าถึงเมื่อ 21 ก.พ. 2567
- “GameStop Mania from a Behavioral Finance Perspective – Medium” https://asmaa-aboufatima.medium.com/gamestop-mania-from-a-behavioral-finance-perspective-fc9c8a9771e5 เข้าถึงเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2567
- “GameStop – 22 Year Stock Price History | GME – Macrotrends” https://www.macrotrends.net/stocks/charts/GME/gamestop/stock-price-history เข้าถึงเมื่อ 21 ก.พ. 2567
- “Tesla, Inc. (TSLA) Stock Price history – Yahoo! Finance” https://finance.yahoo.com/quote/TSLA/history?period1=1598918400&period2=1601424000&interval=1d&filter=history&Frequency=1d&includeAdjustedClose=true เข้าถึงเมื่อ 21 ก.พ. 2567
- “Here’s Tesla’s key level after Battery Day disappointment, according to one trader – CNBC” https://www.cnbc.com/2020/09/23/tesla-battery-day-garners-mixed-analyst-reactions-two-traders-takes.html เข้าถึงเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2567
